.jpg)
ร้านทำเล็บถือว่าเป็นธุรกิจดาวรุ่งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเกิดจากความรักความชอบในการทำเล็บ หรือเกิดจากการมองเห็นโอกาสเติบโตในตลาด ทำให้หลายคนหันมาเปิดร้านทำเล็บเพิ่มมากขึ้น ไปที่ไหนก็เจอร้านทำเล็บสวยๆ อยู่ทุกพื้นที่
หากคุณคือหนึ่งคนที่ต้องการทำธุรกิจร้านทำเล็บเช่นกัน BANDI Thailand ขอมาแชร์ข้อมูลสำคัญเชิงการตลาดที่จะช่วยเจ้าของร้านทำเล็บหน้าใหม่วางแผนเริ่มต้นธุรกิจเปิดร้านทำเล็บให้ก้าวสู่ความสำเร็จได้มากขึ้นค่ะ
1.) เลือกพื้นที่ในการเปิดร้าน
ก่อนจะเริ่มทำสิ่งใด การเลือกพื้นที่ทำเลในการเปิดร้านทำเล็บเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากที่จะเป็นจุดเริ่มต้นชี้วัดว่าร้านทำเล็บของเราจะมีลูกค้าสนใจมาใช้บริการมากน้อยเพียงใด โดยแนะนำให้เลือกทำเลที่สามารถอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าได้ในระดับหนึ่ง เช่น เดินทางสะดวก, มีที่จอดรถ และค่าเช่าอยู่ในระดับที่เรารับได้
.jpg)
2.) สำรวจความต้องการของลูกค้า
หลังจากได้พื้นที่เปิดร้านทำเล็บแล้ว ให้ทำการสำรวจกลุ่มลูกค้าในพื้นที่ว่ามีจำนวนเท่าไหร่ และมีความต้องการแบบใด
ยกตัวอย่างเช่น เปิดร้านทำเล็บในห้างสรรพสินค้าย่านชานเมือง ใกล้กับแหล่งชุมชน มีลูกค้ากลุ่มครอบครัว, แม่และเด็กจำนวนมาก ชอบทำเล็บสีพื้น เพ้นท์ลาย และชอบผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัย ไ่ม่มีสารเคมีอันตราย
3.) สำรวจคู่แข่ง
ควรทำการสำรวจคู่แข่งที่เปิดร้านทำเล็บในพื้นที่เดียวกันหรือพื้นที่ใกล้เคียง เช่น ค่าบริการเท่าไหร่, มีบริการใดบ้าง เพื่อนำข้อมูลมาเป็นตัวอย่างในการพัฒนาบริการให้กับลูกค้า และเพื่อต่อยอดสร้างความแตกต่างให้กับร้านทำเล็บของเราได้อีกด้วย
4.) เตรียมผลิตภัณฑ์และบริการ
เมื่อเราทำการสำรวจทั้งลูกค้าและคู่แข่งแล้ว จะทำให้มองเห็นจุดยืนร้านทำเล็บของเรามากขึ้น ขั้นตอนต่อไปคือการกำหนดบริการในร้าน, เตรียมผลิตภัณฑ์สีทาเล็บหรือสปาที่ตอบโจทย์ และกำหนดราคาให้เหมาะสมกับความต้องการ รวมไปถึงการตกแต่งร้านทำเล็บให้สวยงามตามคอนเซปต์ที่เจ้าของร้านต้องการด้วย
5.) ทีมงานคุณภาพ
เบื้องหลังเคล็ดลับความสำเร็จ คือ การบริการที่สร้างความน่าเชื่อถือและความประทับใจให้ลูกค้าอยากมาใช้บริการร้านทำเล็บของเราอยู่เสมอ อาจเลือกเป็นช่างทำเล็บที่มีประสบการณ์ มีอัธยาศัยดี รักงานบริการ มีทักษะฝีมือในการทำเล็บละเอียด ซึ่งสามารถลงประกาศรับสมัครได้ในกลุ่ม Social Media ช่างทำเล็บ หรือหากเป็นร้านทำเล็บขนาดเล็กที่เจ้าของร้านให้บริการลูกค้าด้วยตัวเองก็ข้ามไปที่ข้อต่อไปได้เลย
6.) การโปรโมทและจัดโปรโมชั่น
เป็นการสื่อสารร้านทำเล็บของเราให้ลูกค้ารับรู้ หรือเป็นที่รู้จัก โดยสามารถแบ่งออกได้ 2 ทางคือ
1. แบบ Offline เช่น ติดป้ายหน้าร้าน, แจกใบปลิวในพื้นที่, การแนะนำโดยครอบครัว หรือคนรู้จัก
2. แบบ Online เช่น ถ่ายภาพหน้าร้านทำเล็บ, ผลงาน, แผนที่ร้าน โพสลงเพจร้านใน Social Media (Facebook, Instagram, TikTok), การยิงโฆษณาใน Social Media
พร้อมเสริมด้วยการจัดโปรโมชั่นเพื่อกระตุ้นความสนใจและดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาทดลองใช้บริการร้านทำเล็บของเรามากยิ่งขึ้น จะสามารถช่วยเพิ่มทั้งฐานลูกค้าและยอดขายได้เป็นอย่างดี
เลือกเคล็ดลับทั้ง 6 ข้อจาก BANDI Thailand นำไปปรับใช้ รับรองว่าจะสามารถช่วยคุณวางแผนในธุรกิจร้านทำเล็บได้อย่างแน่นอน!
